วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

คุณค่าและบทบาทงานช่างแกะรูปหนังตะลุงต่อวิถีชีวิตคนในท้องถิ่น

    การแกะรูปหนังตะลุง เป็นงานศิลปหัตกรรมพื้นบ้านที่มีคุณค่าและมีบทบาทต่อวิถีชีวิตของคนในท้อง ถิ่นมานานหลายร้อยปี วัตถุประสงค์หลักของการแกะรูปหนังตะลุงในอดีตก็เพื่อใช้ในการแสดงหนังตะลุง เท่านั้น เป็นภูมิปัญญาที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษในครอบครัวของตนหรือเรียน รู้ด้วยการฝึกหัด ฝึกฝนเป็นหลัก จากเพื่อนบ้านในหมู่บ้านของตน ซึ่งการแกะรูปหนังตะลุงนั้นมักจะแกะอยู่ในกรอบของวิถีชีวิต สังคมและวัฒนธรรมท้องถิ่น ทั้งรูปแบบและลวดลาย ที่มีคุณค่าด้านต่าง ๆ ดังนี้
    1. คุณค่าด้านสังคม สามารถก่อให้เกิดความรัก ความผูกพัน สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขและยั่งยืน ตั้งแต่ด้านครอบครัว ด้านชุมชน ด้านความสัมพันธ์ระหว่างชุมชนและด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังนี้
        1.1 ด้านครอบครัว การเรียนรู้สืบทอดภูมิปัญญาจากบรรพบุรุษ จากพ่อสู่ลูก ส่งผล
ครอบครัวมีความรู้สึกผูกพันใกล้ชิด ก่อให้เกิดความรัก ความเข้าใจ ความผูกพันอันทรงคุณค่ายิ่งในครอบครัว
        1.2 ด้าน ชุมชน การเรียนรู้การแกะรูปหนังตะลุงในหมู่เพื่อนบ้านและการที่หลายๆ ครอบครัวได้เข้ามารวมกลุ่มแกะหนังตะลุงขึ้นมาเป็นการใช้กระบวนการทำงานแบบ การรวมกลุ่มทำงานในรูปแบบของสมาชิกกลุ่ม ทำให้มีการเคารพต่อกันและการอาศัยอยู่ร่วมกับคนอื่นภายใต้กฎระเบียบสังคม เดียวกัน ก่อให้เกิดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันภายในชุมชน ส่งผลให้ชุมชนเข้มแข็งและสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขและยั่งยืน
        1.3 ด้าน ความสัมพันธ์ระหว่างชุมชน เมื่อมีกลุ่มแกะหนังตะลุงเกิดขึ้นในชุมชน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องหาตลาดภายนอกชุมชนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียน รู้และสร้างรายได้ให้กับชุมชน เป็นการเปิดโอกาสให้ชาวบ้านได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอดความรู้ ก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับชุมชนอื่นๆ อีกด้วย
        1.4 ด้าน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จะ เห็นได้ว่าจากการที่รูปหนังตะลุงที่แกะเป็นของที่ระลึก และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่แกะจากหนังวัว หนังควายนั้น เป็นที่สนใจของคนทั่วไปและชาวต่างชาติเป็นอย่างดี ถือได้ว่าการแกะรูปหนังตะลุงเป็นงานศิลปหัตกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด พัทลุงและของภาคใต้ เป็นสินค้าอย่างหนึ่งที่สามารถเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวได้มาเยี่ยมชม ทัศนศึกษาและได้ซื้อผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านการแกะรูปหนังตะลุงกลับไป สู่ประเทศของตน ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาของตน ที่สามารถถ่ายทอดวัฒนธรรมไปสู่ต่างประเทศได้และเป็นส่วนหนึ่งในการแลก เปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมกับต่างประเทศ ทำให้ภูมิปัญญาไทยเป็นที่รู้จักในต่างประเทศมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้มีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศดีขึ้นตามมาด้วย
    2. คุณค่าด้านศาสนา ความ เชื่อในด้านศาสนาที่มีอยู่ในท้องถิ่น โดยจะแกะหนังเป็นรูปพระเพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจและกราบไหว้สักการะ บูชา

    3. คุณค่าด้านวัฒนธรรม อันประกอบด้วย
        ด้านความ เชื่อ ช่างแกะหนังในจังหวัดพัทลุง มีวัฒนธรรมความเชื่อถือผีบรรพบุรุษ โดยมีความเชื่อเกี่ยวกับการไหว้ครูช่าง โดยความเชื่อนับถือครูบาอาจารย์ที่ประสาทวิชาความรู้การแกะหนังตะลุงมาสู่ รุ่นลูกรุ่นหลาน และไหว้วิญญาณของบรรพบุรุษ ซึ่งเป็นความเชื่อว่า วิญญาณของบรรพบุรุษยังมีความรักความห่วงใยลูกหลาน คอยพิทักษ์รักษาดูแลทุกคนในวงเครือญาติให้อยู่อย่างปลอดภัย มีความเจริญในหน้าที่การงาน
นอกจากจะมีความเชื่อในเรื่องผีบรรพบุรุษแล้ว ยังมีความเชื่อสิ่งเหนือธรรมชาติ ช่างแกะหนังตะลุงมีความเชื่อว่า การทำรูปหนังพวกฤาษี รูปตัวตลก จะนิยมใช้หนังหมี หนังเสือมาแกะรูป ส่วนรูปหนังพระอิศวร พระนารายณ์ ใช้หนังวัวที่ถูกเสือกัดตาย หรือออกลูกหรือถูกฟ้าผ่าตาย เรียกว่า ตายพราย วัวที่ถูกฟ้าผ่าตายและหนังวัวที่ตายทั้งกลม โดยมีความเชื่อว่าหนังชนิดนี้มีความขลังความศักดิ์สิทธิ์ ถือเป็นความเชื่อด้านเหนือสิ่งธรรมชาติ ในเรื่องของภูตผีปีศาจอยู่ ช่างแกะหนังในจังหวัดพัทลุงทุกคนเคารพและนับถือความเชื่อด้านสิ่งเหนือ ธรรมชาติที่สิงสถิตอยู่ที่ตัวรูปหนังและจะบูชากราบไหว้ และถือว่าตัวรูปหนังดังกล่าวนำความเจริญ โชคลาภ ความดีความงามมาสู่แก่ช่างแกะหนังทุก ๆ คน
นอกจากความเชื่อดังกล่าวแล้ว ในการแสดงหนังตะลุงก็มีความเชื่อว่า การเชิดรูปพระอิศวร เป็นตัวที่ 2 ต่อจากรูปฤาษี เป็นรูปสำคัญตัวหนึ่งที่หนังตะลุงทุกคณะต้องเชิดตามขนบนิยมทุกครั้งที่มีการ แสดง เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า รูปพระอิศวร เป็นสื่อเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมหนังตะลุงกับคตินิยม ตามลัทธิศาสนาพราหมลัทธิไศวนิกายที่ถือเอาพระศิวเทพเป็นใหญ่ในตรีมูรติ (พระศิวะ พระวิษณะ และพระพรหม)
    4. คุณค่าด้านเศรษฐกิจ จากในอดีตการที่ช่างแกะรูปหนังตะลุง แกะเพื่อใช้ในการแสดงหนังตะลุงเท่านั้น ทำให้มีการแกะกันเพียงไม่กี่ครัวเรือน ปัจจุบัน การแกะรูปหนังตะลุงมีทั้งแกะสำหรับการแสดงและแกะเพื่อเป็นสินค้า เป็นของที่ระลึก และใช้ประดับตกแต่ง ทำให้การแกะรูปหนังตะลุงฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง สามารถเพิ่มเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี ทั้งยังก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับชุมชนอื่น ๆ อีกด้วย 5. คุณค่าด้านความสุนทรีย์ การแกะรูปหนังตะลุง ต้องเป็นคนที่มีความรู้สามารถ ความเข้าใจและความชำนาญในด้านศิลปะเป็นอย่างดี โดยเฉพาะลวดลายไทย ที่ต้องใช้ในการแกะหนัง และสามารถวาดรูปและลงสีให้สวยงามเกิดความสุนทรีย์ในผลิตภัณฑ์ ส่งผลในการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ได้อีกประการหนึ่งด้วย
    6. คุณค่าด้านการสร้างจิตนิสัย จากการที่ชาวบ้านได้รวมกลุ่มทำศิลปหัตถกรรมการแกะหนังตะลุง เป็นการรวมกลุ่มกันทำให้เกิดคุณค่าด้านการสร้างจิตนิสัยเกิดความสัมพันธ์กัน เป็นสังคมท้องถิ่น ส่งผลให้ชาวบ้านสร้างจิตนิสัยในด้านต่างๆ 6 ด้าน ได้แก่ ความสามัคคีในกลุ่ม ความอดทน ความมีจิตใจเอื้ออารี ความขยันหมั่นเพียร ความประหยัดและการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
    7. คุณค่าด้านการช่วยลดภาวะโลกร้อน ศิลปหัตกรรมการแกะรูปหนังตะลุงสามารถช่วยลดโลกร้อนได้ด้วยเหตุผล ดังนี้
        7.1 ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง เป็นการช่วยในการลดการแพร่กระจายของกาซคาร์บอนไดออกไซด์ ไม่เกิดมลภาวะเป็นพิษ ใช้แรงงานจากบุคคลในการผลิต มากกว่าใช้เทคโนโลยี และไม่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง ใช้เครื่องมือที่ไม่ใช้พลังงานมาก
        7.2 ลดการใช้ปุ๋ยไนโตรเจน โดยนำขนวัว ขนควาย เศษหนังที่ไม่ใช้ นำมาทำปุ๋ยแทนการใช้ปุ๋ยชีวภาพ
        7.3 ใช้พลังงานทดแทน โดยใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ในการตากหนัง
        7.4 การ รวมกลุ่มอาชีพ รวมกลุ่มสร้างตลาดผู้บริโภค-ผู้ผลิตโดยตรงในท้องถิ่น เพื่อลดกระบวนการขนส่งผ่านพ่อค้าคนกลางที่ต้องใช้พลังงานและน้ำมันในการ คมนาคมขนส่งงานหัตถกรรมไปยังตลาด


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น